ในช่วงหลังมานี้ไม่ว่าสื่อช่องทางใด ๆ ก็มักจะสนับสนุนให้คนในสังคมคิดบวกด้วยกันทั้งสิ้น การคิดบวกจะทำให้คนเรามีชีวิตด้วยความสุขและมีกำลังมากยิ่งขึ้นตรงข้ามกับการคิดลบ แต่หลายคนอาจจะไม่ได้เข้าใจถึงการคิดบวกได้อย่างแท้จริง การคิดบอกนั้นต่างจากการเป็นคนโลกสวย แม้ว่าการเป็นคนโลกสวยก็มีความคิดบวกแทรกปนอยู่ด้วยเช่นกัน แต่การคิดบวกนั้นแตกต่างออกไป พวกโลกสวยคือคนที่อยู่บนโลกที่เขาสร้างขึ้นมา เป็นโลกที่มีแต่ความสุข สมปรารถนาเป็นนักฝันที่เดินอยู่บนปุยเมฆโดยไม่ได้สนใจข้างทางที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายและขวากหนาม พวกโลกสวยจึงถูกคนส่วนใหญ่เย้ยหยันและมองว่าไร้สาระ ถ้าเช่นนั้นคนที่คิดบวกแท้จริงและคิดบวกเป็นนั้นมีคุณสมบัติและรายละเอียดเช่นไร เรามาเรียนรู้การคิดบวกให้เป็นไปด้วยกัน
1.คุณต้องเริ่มจาก Wish
Wish ก็คือการระบุความปรารถนาหรือเป้าหมายที่เราต้องการลงไปในความคิด เป็นความคาดหวังหรือมุมมองที่ดีที่มีต่อเรื่องราว สถานการณ์ เหตุการณ์ อารมณ์ บุคคล หรือแม้แต่ตัวเองก็ได้ การกำหนดหรือคิดสิ่งที่เราคาดหวังให้เกิดขึ้นตามใจต้องเป็นสิ่งที่ดี เป็นแง่บวก ซึ่งจุดนี้ก็เช่นเดียวกันกับคนโลกสวยหรือความคิดบวกที่คนทั่วไปเข้าใจกัน
2.Outcome
เมื่อเรามีจุดมุ่งหมายและความคาดหวังสวยงามที่เรากำหนดขึ้นแล้ว เราก็จะเริ่มด้วยผลลัพท์ที่ดีที่สุดที่เราประเมินว่าจะได้ เช่นเราคาดหวังว่าเราจะมีความสามารถในการทำงานชิ้นนี้ให้ประสบความสำเร็จและเราเชื่อมัน่ เรา wish ว่าเราทำมันได้แน่ ๆ และมันจะสำเร็จ จากนั้นเราก็ คืดถึง Outcome เมื่อเราทำงานชิ้นนี้จนสำเร็จเราจะได้รับรางวัลและรายได้มากมหาศาล ซึ่งเป็นผลลัพท์ที่ดีที่สุดคือรางวัลดีเยี่ยมและกำไรหลายสิบเท่า
3.Optacle
เรามาวิเคราะห์ต่อไปถึงอุปสรรค์ที่อาจเกิดขึ้นขณะที่เราไปให้ถึงเป้าหมายหรือ wish นั้น มองให้ออกถึงอุปสรรค์ชนิดที่ร้ายแรงที่สุดโดยใช้ความคิดแต่ไม่ใช้ความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกกลัวหรือกังวล
4.Plan
ขั้นตอนสุดท้ายของการคิดบวกคือ วางแผนในการลงมือทำและวางแผนรับมือกับอุปสรรค์ไว้ให้ละเอียดรอบคอบที่สุด
การคิดบวกและทำตามความคิดจนสำเร็จให้เราถามตนเองเสมอว่า สิ่งใดที่ขขัดขวางเป้าหมายให้ไม่สำเร็จและต่อสู่จัดการกับปัญหานั้น ทั้งหมดนี้เรียกกันว่าคิดบวกแบบ WOOP โดยมีผู้คิดค้นและทกดลองกับอาสาสมัครผลที่ได้อาสาสมัครสามารถทำตามเป้าหมายคิดบวกจนสำเร็จได้มากถึง 80% แล้วคุณล่ะ ออกแบบความคิดบวกของคุณเป็นแล้วหรือยัง